หม่ำ เป็นการถนอมอาหารแบบอีสานประเภทหนึ่ง เป็นการนำเนื้อสัตว์มาสับรวมกับเครื่องใน กระเทียม ข้าวคั่ว เกลือ นำไปยัดไส้หรือถุงน้ำดี หมักไว้ 5-6 วันจนมีรสเปรี้ยว ถ้าหมักในถุงน้ำดีจะได้หม่ำรูปกลม ถ้าหมักในไส้จะได้หม่ำรูปท่อน[1] แต่เดิมใช้ถนอมเนื้อวัวที่เหลือจากการล้มวัว โดยใช้เนื้อวัวที่มีคุณภาพดีกว่าที่ใช้ทำไส้กรอกอีสาน ปัจจุบันมีที่ทำจากเนื้อหมูด้วย
THE BEST VIDEO CHANEL วีดีโอแนวท่องเที่ยว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558
sunitjo พาเที่ยว เมือง นครโฮจิมินห์ หรือ โฮจิมินห์ซิตี (เวียดนาม: Thành phố Hồ Chí Minh; ไปแบบงงๆ กับเมืองสุด คลาสสีค
นครโฮจิมินห์ หรือ โฮจิมินห์ซิตี (เวียดนาม: Thành phố Hồ Chí Minh; อังกฤษ: Ho Chi Minh City, ตัวย่อ HCMC) หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน (อังกฤษ: Saigon; เวียดนาม: Sài Gòn ส่ายก่อน) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม จากประชากรร้อยละ 7.5 ของประเทศ แต่มีจีดีพีถึงร้อยละ 20.2 และการลงทุนจากต่างประเทศมากถึงร้อยละ 34.9 ของทั้งประเทศ
ไซ่ง่อนในอดีตเคยเป็นเมืองในการปกครองของเขมรมาก่อนเรียกว่า แปรยนคร ต่อมาเมื่อแยกเป็นประเทศเวียดนาม ไซ่ง่อนเป็นเมืองหลวงของเวียดนามใต้ เมื่อเวียดนามเหนือยึดได้จึงเปลี่ยนชื่อเป็น นครโฮจิมินห์ ตามชื่อผู้นำเวียดมินห์ คือ โฮจิมินห์
ชาวเวียดนามในนครโฮจิมินห์ส่วนใหญ่เดินทางโดยรถจักรยานยนต์ มีรถแท็กซี่บริการโดยมีหลายบริษัท และมีรถประจำทางบริการ เรียกว่า ไซ่ง่อนบัส (Saigon Bus) ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (Tân Sơn Nhất) เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามในด้านจำนวนผู้โดยสารตั้งอยู่ใจกลางนครโฮจิมินห์ อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานนานาชาติล็องถั่ญ (Long Thành) จะสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2020 และจะกลายเป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดแทน
โฮจิมินห์ (เวียดนาม: Hồ Chí Minh, โห่ จี๊ มิญ; คำแปล "แสงสว่างที่นำทาง"[2]) เป็นนักปฏิวัติชาวเวียดนาม ซึ่งในภายหลังได้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (เวียดนามเหนือ) หลังจากสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ไซ่ง่อน เมืองหลวงเก่าของเวียดนามใต้ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นโฮจิมินห์ซิตี เพื่อเป็นเกียรติแก่โฮจิมินห์
โฮจิมินห์ เป็นบุคคลที่ชาวเวียดนามถือว่าเป็นบุคคลที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการประกาศอิสรภาพของเวียดนาม
ประวัติ
โฮจิมินห์เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2433 ที่หมู่บ้านฮหว่างจู่ จังหวัดเหงะอาน ตอนบนของเวียดนาม ในชื่อ เหงียน ซิญ กุง เป็นบุตรคนที่ 3 และบุตรชายคนรองของเหงียน ซิญ ซัก ปัญญาชนชาวเวียดนาม [2]
ซึ่งเวียดนามขณะนั้นตกเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิฝรั่งเศส ดังนั้นทั้งโฮจิมินห์และบิดาต่างตกเสมือนอยู่ใน 2 วัฒนธรรม ทั้งวัฒนธรรมตะวันตกของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ปกครอง และวัฒนธรรมตะวันออกแบบจีนและลัทธิขงจื๊อ อันเป็นวัฒนธรรมของเวียดนาม
ด้วยวัยเพียงไม่กี่ขวบ โฮจิมินห์ได้ย้ายตามบิดาไปเว้ ซึ่งไปสอบจอหงวน แต่ต่อมาโฮจิมินห์ได้อาศัยอยู่กับมารดาตามลำพังเพียง 2 คน เพราะบิดาเมื่อสอบจอหงวนได้ ได้ย้ายไปรับราชการที่ต่างเมือง ขณะที่มารดากำลังตั้งครรภ์ ต่อมาก็ได้คลอดลูกคนเล็กออกมา โฮจิมินห์ในวัย 11 ขวบต้องเลี้ยงน้องเอง เนื่องจากมารดาได้เสียชีวิตไปในขณะคลอด และไม่นานน้องคนเล็กก็เสียชีวิต
เมื่อโตขึ้น โฮจิมินห์ได้สัมผัสกับการเมืองเป็นครั้งแรกจากการที่เป็นล่ามภาษาฝรั่งเศสให้กับชาวนาที่ถูกเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสกดขี่ ในช่วงนี้ โฮจิมินห์ได้กล่าวว่า ตนได้เห็นการกดขี่และความอยุติธรรม รวมถึงการได้เห็นชาวนาถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา ต่อมาโฮจิมินห์รู้ตัวว่า ตนเองต้องได้รับการศึกษาที่มากขึ้นและออกไปท่องโลกกว้างเพื่อเปิดโลกทัศน์ของตน ในปี พ.ศ. 2454 จึงได้ย้ายจากเวียดนามไปเป็นพ่อครัวในประเทศฝรั่งเศส ด้วยการสมัครเป็นลูกเรือบนเรือเดินสมุทรที่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศเจ้าอาณานิคมของเวียดนามในขณะนั้น และได้ศึกษาเรียนต่อที่นั่น โฮจิมินห์ในขณะนั้นใช้ชื่อว่า เหงียน อ๊าย โกว๊ก ซึ่งแปลว่า "เหงียนผู้รักชาติ" โฮจิมินห์ได้ติดต่อกับชาวเวียดนามในฝรั่งเศส เพื่อรวมตัวกันเรียกร้องอิสรภาพจากชาติมหาอำนาจตะวันตกหลายชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ ในฐานะโฆษกของกลุ่ม แต่ทว่าก็ได้รับการรังเกียจและถูกกีดกันออกมา เมื่อโฮจิมินห์พยายามจะยื่นหนังสือต่อวูดโรว์ วิลสัน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ขณะเดินทางมายังฝรั่งเศส เพื่อลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ดูเพิ่มเติม คลิ๊ก.. www.sunitjotravel.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)